top of page
รูปภาพนักเขียนsupachai areerungruang

ความสุขในเปลวไฟ

วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2565


เช้าวันมาฆบูชาของปี 2565 ฟ้ามัวเหมือนมีเมฆฝนที่กำลังควบแน่นตัวเองแล้วร่วงตกลงมาในอีกไม่ช้า ผมออกไปใส่บาตรพระเพื่อระลึกถึงแม่และบรรพชนที่ล่วงลับ ผมไม่รู้หรอกว่าสิ่งที่ส่งผ่านจะไปถึงอย่างไร แต่ใจก็มีสุขแล้ว เมื่อกลับมาถึงบ้านก็นึกได้ว่าผมมีกิ่งไม้ ฟืนเล็กๆ ที่ได้ตระเตรียมมาจากบ้านที่จังหวัดพิษณุโลก รวมทั้งอุปกรณ์จุดไฟ เตาสนาม ผมก็เลยไม่รอช้าที่จะเดินไปนำมันออกมาเพื่อมาจุดไฟต้มน้ำ


การได้จุดไฟต้มน้ำ สำหรับผมมันเหมือนกันการได้กลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง การเล่นไฟ เป็นของสนุกสำหรับเด็กผู้ชาย แต่ตอนเด็กๆ จุดเตาเท่าไรก็ไม่เคยติด หรือกว่าจะติดได้ก็นานจนเหงื่อแตก ต่อให้สุมกระดาษเป็นลังก็ไม่ติด โตมาจึงได้เรียนรู้ว่าต้องใช้กิ่งไม้เล็กๆมากๆ ลำดับใส่ไปในไฟ แล้วค่อยๆเรียงขนาดกิ่งไม้ให้ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จนถึงขนาดกิ่งไม้ใหญ่ ไฟจึงจะสามารถติดกับไม้ใหญ่ๆได้ ทำให้ความสนุกกลับมาอีกครั้ง

การต้มกาแฟสำหรับผมอาจจะดูเหมือนเป็นเรื่องธรรมดา แต่กลับไม่ธรรมดาเมื่อบทสนทนาระหว่างชายวัย 60 กับชายไร้สาระวัย 47 คุยกันระหว่างการติดเตา ชายรุ่นใหญ่ผู้สนใจวรรณกรรมเป็นชีวิตจิตใจในคราบคนรับจ้างตัดหญ้าเอ่ยขึ้นว่า การติดไฟฟืนด้วยอุปกรณ์แคมป์ทำให้นึกถึงวรรณกรรมเพชรพระอุมา ชายไร้สาระตอบทันควันว่า มีอีกเรื่องหนึ่งคือ ล่องไพร การสนทนาโดยมีจุดเชื่อมคือ การติดเตาฟืน วรรณกรรม ทำให้มิตรภาพเกิดขึ้น กาแฟขมๆจึงเป็นเหมือนน้ำประสานเชื่อมให้มนุษย์สนทนากันมาเป็นศตวรรษ เอาเข้าจริงๆมันก็ไม่ธรรดานะ เพราะทุกวันนี้ เดินไปทางไหนก็มีแต่ร้านกาแฟ แต่จะมีมิตรหรือเปล่านั้นก็อีกเรื่องหนึ่ง

ชายผู้รักวรรณกรรมได้ทำอะไรเล็กน้อยแต่มากสำหรับผมและความประทับใจ ในวันที่ผมจะเดินทางกลับมากรุงเทพๆ ชายผู้นั้นก็พลันถือถุงใส่กิ่งไม้ที่ผ่านการสับ ตัดขนาดพอดีกับใส่เตาน้อยๆของผมมาให้แล้วยื่นถึงมือ พร้อมกับกล่าวด้วยไมตรีว่า อาจารย์คงจะหากิ่งไม้ยากแถวๆนี้ แถมมาด้วยน้ำมันเบนซินใส่กระบอกฉีดน้ำมาให้ด้วย เพราะคงเห็นผมจุดไฟจนเหงื่อแตก อะไรจะสู้ฉีดน้ำมันใส่เตาแล้วจุดไฟ ได้กินกาแฟเร็วขึ้นด้วย

เมื่อมองดูสิ่งไร้สาระ ปะทะประสบการณ์เพื่อหาอะไรทำในช่วงวัน แล้วมองมันด้วยตัวเอง ความคิดตัวเองแล้ววิเคราะห์หาเหตุผลของสิ่งที่เกิดขึ้น ผมพบว่าทุกสรรพสิ่งเราเรียนรู้ได้ เห็นคุณค่าได้จากสิ่งรอบตัว ไม่เมามัวกับของปลอมๆที่ถูกสร้างอำพรางให้ห่างไกลจากความจริง ผมก็เข้าใจตัวเองได้ดีขึ้น

ดู 9 ครั้ง0 ความคิดเห็น

Comments


bottom of page